การไลฟ์แนะนำสินค้า ต้องอาศัยการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เพื่อให้คนติดตามฟังเรื่องที่เราอยากขายและนำเสนอตลอดจนจบไลฟ์ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการไลฟ์ขายของ เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นที่ทุกร้านค้าออนไลน์จะไลฟ์ขายของ ดังนั้น สำหรับคนที่ไม่ถนัดไลฟ์ สามารถนำเนื้อหานี้ไปปรับใช้สำหรับการเขียนบทความสั้นๆ เพื่อเล่าเรื่องสินค้าของเรา ไปโพสต์บนโซเชียลต่างๆ ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่ง “ศิลปะการเล่าเรื่อง” จะช่วยให้สินค้าหรือร้านค้าของเราเข้าไปประทับอยู่ในใจของลูกค้าได้อย่างชัดเจน เรามาลองดูแต่ละเทคนิคไปด้วยกัน
- ฉายให้เห็นภาพ
ทักษะการเล่าเรื่องด้วยการฉายภาพให้คนฟังเห็นภาพเป็นเรื่องสำคัญของการเล่าเรื่อง เพราะเรื่องเล่าที่มีแต่การพูดๆๆ ถึงความคิดของคนพูด และเต็มไปด้วยข้อมูลตลอดเวลา เป็นอะไรที่น่าเบื่อ แถมยังเป็นการผลักคนฟังให้ออกไปเสียด้วยซ้ำ อารมณ์ไม่ต่างจากการที่เราดูคนมาบ่นอยู่หน้าจอให้เราฟัง ซึ่งคงไม่มีใครอยากฟัง ดังนั้น การเล่าเรื่องผ่านการพูดก็เช่นกัน ผู้เล่าต้องใช้ทักษะในการฉายภาพของสินค้าที่จะเล่า ให้เกิดขึ้นในใจของคนฟัง
โดยอันดับแรก ต้องเลือกให้ได้ก่อนว่าข้อมูลส่วนใด ความคิดเห็นส่วนไหน จะนำเสนอด้วยวิธีการใด ข้อมูลส่วนใดใช้การบรรยาย ส่วนไหนเล่าเรื่องแบบการฉายให้เห็นภาพ ส่วนไหนจะเล่าแบบเป็นตัวละคร หรือส่วนไหนที่จะใช้การสร้างบทสนทนากับผู้ฟัง เพราะเรื่องเล่าไม่ได้มีแต่ข้อมูล แต่เรื่องเล่าที่น่าสนใจนั้น ประกอบจากทั้งข้อมูล เนื้อหา ความคิด สถานการณ์ อารมณ์ความรู้สึก
- เชื่อมต่ออารมณ์ เชื่อมโยงข้อมูล
สิ่งที่นักเล่าเรื่องส่วนใหญ่เวลาทำเวลาต้องอยู่หน้ากล้อง คือมีการตัดต่อเรื่องที่จะเล่าอยู่ในหัว แล้วจึงค่อยเล่าออกมา ทำให้เวลาที่จะเล่าเรื่องหน้ากล้อง โดยเฉพาะการไลฟ์กันแบบสดๆ มักเกิดอาการชะงักกลางอากาศ เงียบไปดื้อๆ เพราะตื้อๆ กลับพูดไม่ออก ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะการตัดต่อเรื่องเล่าในหัว หรือเตรียมเนื้อหามากเกินไป ทำให้ขาดจังหวะในการเชื่อมต่ออารมณ์ ระหว่างคนไลฟ์และคนฟัง กลายเป็นการเล่าเรื่องที่เป็นการพูดๆๆๆๆ ใส่กล้องอยู่คนเดียว แต่คนดูดูแล้วรู้สึกออกห่าง ไม่มีอารมณ์ร่วมในการอยากฟังเรื่องเล่าของเรา ไม่ว่าสินค้านั้นจะดีแค่ไหน
ดังนั้น การไลฟ์เพื่อพูดถึงสินค้าของเรา ไม่ใช่การย้ำแต่ข้อดีและราคาเท่านั้น แต่สิ่งที่จะทำให้การไลฟ์ดึงความสนใจของคนฟังได้ คือการเล่าอย่างลื่นไหล โดยค่อยๆ รวบรวมข้อมูลของสินค้าที่เรามี มาเชื่อมโยงให้เป็นเนื้อหาในการเล่าเรื่อง จากนั้นจึงค่อยๆ เล่าเนื้อหาออกมา ให้กลายเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับสินค้าของเรา
- พาไปในจินตนาการ
การพูดเล่าเรื่อง ซึ่งรวมถึงการเล่าขายของ เปรียบได้กับการพาคนฟังไปเที่ยว โดยพาคนฟังเดินทางออกไปจากโลกความจริง และเข้าไปเดินทางในเรื่องเล่านั้นนั่นเอง ถ้าเล่าเรื่องเกี่ยวกับการนำเสนอสินค้าก็คือไปคนฟังหรือคนดูเข้าไปเที่ยวในโลกของสินค้าชิ้นนั้น ซึ่งต้องประกอบด้วยการบรรยายและพรรณนา มีการออกแบบและพัฒนาเส้นเรื่องที่จะเล่า และสร้างจังหวะการเล่า ตั้งแต่การเปิดเข้าสู่เรื่องใหม่ หัวข้อใหม่ และรวมถึงการใช้ภาษาทั้งภาษาพูด ภาษาท่าทาง ภาษาสายตา และการพูดบทสนทนา
องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เรื่องเล่าของเราแตกต่างจากการขายสินค้าตรงๆ อย่างไร ต้องบอกก่อนว่าเหตุผลแรกๆ ที่คนตัดสินใจซื้อสินค้า คือการตัดสินใจด้วยอารมณ์ และข้อมูลที่มีความหมาย ดังนั้น หากเรื่องเล่าสินค้าของเราไม่สามารถลงลึกไปในใจคนได้เลย หากไม่ถูกสื่อไปพร้อมอารมณ์ สินค้าชิ้นนั้นก็จะไม่สามารถเข้าคนฟังหรือคนดูให้เข้าไปอยู่ในโลกของสินค้าที่เราต้องการนำเสนอขายได้
- ทำให้เข้าใจ ไม่ยัดเยียด
สิ่งสำคัญของการเล่าเรื่องและขายของ ไม่ใช่การอวดอ้างแต่สรรพคุณ ข้อดี ของสิ่งที่เราจะขาย และแน่นอนว่าไม่ใช่การอวดอ้างความน่าเชื่อถือของตัวเราหรือร้านค้าของเรา แต่เป็นการใช้เรื่องเล่าเพื่อทำหน้าที่ผลักเบาๆ ให้คนฟังเรียนรู้และค้นพบความหมายหรือข้อมูลสำคัญของสินค้าที่เราจะสื่อต่างหาก ทำให้เรื่องเล่าเข้าไปกระตุ้นการตัดสินใจผู้ฟังให้เชื่อ ให้เปลี่ยนใจ ให้คิดฝันใหม่ ให้อยากตัดสินใจ หรือทำให้อยากซื้อนั่นเอง
ตัวอย่าง ไลฟ์ขายผักคะน้าอินทรีย์ จะไม่ได้พูดแต่ราคา และไม่ได้บอกแค่ว่าผักของเราดีกว่าผักฟาร์มอื่นอย่างไร แต่เราอาจเล่าถึงที่มาของการปลูกคะน้าอินทรีย์ สอดแทรกข้อมูลด้านสุขภาพว่าคะน้ามีวิตามินแร่ธาตุอะไรที่สำคัญกับร่างกาย แล้วเสริมด้วยแนวคิดการปลูกแบบวิถีอินทรีย์ จากนั้นเล่าความยากลำบากในการดูแลคะน้าอินทรีย์แต่ละขั้นตอน ว่ามีความพิถีพิถันในการดูแลผักคะน้าอินทรีย์อย่างไรในแต่ละวัน ที่แตกต่างจากการปลูกแบบเคมี ซึ่งในประเด็นนี้เราสามารถเล่าให้คนฟังเห็นภาพตามไปด้วยได้ในทุกๆ ขั้นตอน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเล่าตรงๆ ด้วยซ้ำว่าผักอินทรีย์ดีอย่างไร เช่น การตื่นมาให้ปุ๋ยและฮอร์โมนนมสดก่อนแสงแรกของพระอาทิตย์จะส่องมาที่แปลงผัก เพื่อให้ผักคะน้าได้ดูดซึมแร่ธาตุที่เราให้ได้เต็มที่ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ปากใบของผักเปิด ตกเย็นก็ต้องคอยฉีดน้ำหมักใบยาสูบ เพื่อไล่หนอนและแมลง ต้องคอยเดินส่องหาไข่ผีเสื้อที่คอยแอบมาวางไข่ใต้ใบทุกคืน ดึกดื่นอย่างไรก็ต้องทำ เพื่อผักคะน้าที่มีคุณภาพ โดยไม่ใช้สารเคมีแม้แต่หยดเดียว จนกระทั่งเล่าถึงความตั้งใจในการให้ผู้คนได้รับประทานผักปลอดภัย ทั้งหมดนี้ทำให้คนฟังเห็นภาพและเกิดแนวโน้มในการตัดสินใจซื้อได้เอง โดยไม่ต้องยัดเยียดด้วยการลดแลกแจกแถม ไม่ต้องใช้ราคามาเป็นตัวนำในเรื่องเล่า แต่เราเล่าความน่าสนใจของผักคะน้าอินทรีย์ให้คนเห็นภาพ แล้วเกิดความประทับใจในความประณีตของเกษตรกรอินทรีย์ จนอยากซื้อมาลองรับประทาน
การไลฟ์ที่ดีอาจไม่ได้เกิดขึ้นในครั้งแรก หรือสิบครั้งแรก แน่นอนว่าต้องผ่านการฝึกฝน ทดลอง ทำบ่อยๆ แล้วจะค้นพบแนวทางการเล่าเรื่องผ่านไลฟ์ขายของที่สามารถโน้มน้าวใจคนให้อยากซื้อ อยากลองใช้สินค้าของเรา วันนี้มาลองไลฟ์กันดูสักคลิปนะคะ
รับข่าวสารได้ที่ https://lin.ee/rSI44iK
#โกดิจิทัลอาเซียนไทย #การตลาดออนไลน์